ประวัติความเป็นมา วังค้างคาว สมัย ร.5 หลังเปิดประมูล

ประวัติความเป็นมา วังค้างคาว สมัย ร.5 หลังเปิดประมูล

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมธนารักษ์ได้ได้ประกาศประมูลสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุ (วังค้างคาว) พร้อมที่ดินนอกที่ตั้งตัวอาคาร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2723 (บางส่วน)

โฉนดที่ดินเลขที่ 3249 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 0-3-29 ไร่ มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี โดยมีเงื่อนไขการประมูลสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุ ดังนี้

1. คุณสมบัติผู้เข้าประมูล

1.1 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตามกฎหมายไทย

1.2 จะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานก่อสร้างของทางราชการตามหนังสือแจ้งเวียนรายชื่อผู้ทิ้งงานของคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุกรมบัญชีกลางมาก่อนจึงจะมีสิทธิได้รับการพิจารณา

2. สถานที่ติดต่อขอซื้อเอกสารผังประมูล สามารถติดต่อขอซื้อเอกสารผังประมูล ในราคาชุดละ 1,500 บาท ณ ส่วนรายได้ กองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ 2-31 สิงหาคม 2564 ทุกวันในเวลา 09.00-15.00 น. เว้นวันหยุดราชการ

3. กำหนดวัน เวลา รับฟังคำชี้แจงและดูสถานที่ประมูลสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุ ผู้เข้าประมูลสามารถรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดการประมูล ในวันที่ 9 กันยายน 2564 โดยพร้อมกัน ณ กรมธนารักษ์ เวลา 10.00 น.

4. การเสนอเงินค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่า ไม่ต่ำกว่า 9,475,200 บาท

5. หลักประกันซองผู้เข้าประมูลจะต้องวางหลักประกันซอง เป็นเงิน 947,520 บาท พร้อมกับการยื่นซองประมูล

6. กำหนดวัน เวลาเปิด-ปิดรับซองประมูล และเปิดซองประมูลผู้เข้าประมูลต้องยื่นซองประมูลต่อคณะกรรมการ ณ ห้องประชุม 702 อาคารกรมธนารักษ์ ในวันที่ 23 กันยายน 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 10.00 น. และคณะกรรมการจะปิดรับซองประมูล ในเวลา 10.00 น. และจะเปิดซองประมูล เวลา 10.30 น. ในวันและสถานที่เดียวกัน

ประวัติความเป็นมาวังค้างคาว

บ้านพระประเสริฐวานิช (เจ้าสัวเขียว เหล่าประเสริฐ) เป็นอาคารเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของพระประเสริฐวานิช ต่อมาบ้านและที่ดินตกเป็นของนายเว้น (บุตร) และได้บริจาคให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2464 อาคารนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะและรูปแบบเป็นกลุ่มอาคารเก๋งจีน 2 ชั้น ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง หน้าจั่วปูนปั้น ประกอบด้วย อาคารสองหลังตั้งขนานกัน หันหน้าออกแม่น้ำ มีระเบียงเชื่อมถึงกัน ล้อมลานโล่ง ตรงกลางขนาดใหญ่

พื้นที่บริเวณใต้ถุนอาคารถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ทั้งสองฝั่งเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่เก็บสินค้า โดยในระหว่างปี พ.ศ. 2450-2460 บริษัท หลักสุงเฮง ของนายเหียกวงเอี่ยม อดีตประธานหอการค้าไทย-จีน เช่าอาคารและพื้นที่เป็นสำนักงานและท่าเรือซึ่งดำเนินกิจการรับ-ส่งสินค้าทางเรือ จากนั้น ห้างฮั่วจั่วจั่นได้มาขอเช่าต่อ โดยใช้พื้นที่ใต้ตึกเป็นที่เก็บสินค้า เมื่อเลิกเช่าตัวอาคารจึงถูกปิดร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์มาหลายสิบปี ทำให้มีค้างคาวเข้ามาทำรังและอาศัยอยู่บริเวณใต้ตึกเป็นจำนวนมาก จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้มีคนเรียกอาคารเก่าหลังนี้ว่า วังค้างคาว

ในปี พ.ศ. 2561 กรมศิลปากรได้ประกาศรายชื่อโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานครตามนัยราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนพิเศษ 165 ง ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 โดยมีบ้านพระประเสริฐวานิช (เขียว) (วังค้างคาว) ในประกาศดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ