เปิดร้านทอง 100 ล้าน เกรท วรินทร ที่บ้านเพชรบูรณ์

เปิดร้านทอง 100 ล้าน เกรท วรินทร ที่บ้านเพชรบูรณ์

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกหหนุ่มที่มีแฟนคลับติดตามและรู้จักเป็นอย่างดี สำหรับหนุ่ม เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ และอย่างที่ทราบกันดีว่า เกรท วรินทร นั้นทางครอบครัวมีกิจการร้านทองใหญ่โตประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกได้ว่าใครๆ ต่างก็รู้จักสำหรับ ห้างทองหวังเงินไทย (เจ๊กุ้ง)

สำหรับร้านทองหวังเงินไทย (เจ๊กุ้ง) นั้นเป็นร้านทองที่เปิดโดยคุณแม่ของหนุ่มเกรท ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ๊กุ้งนั้นคือใคร จากที่ผ่านๆ มาตั้งแต่เปิดร้านทอง กิจการก็ค่อยๆ เติบโตมาเรื่อยๆ โดยทุกๆ ปีหนุ่มเกรทจะต้องหาโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่ม เกรท ก็ได้กลับไปเยี่ยมบ้าน พร้อมพูดถึงกิจการร้านทองของที่บ้าน

ว่าอาจจะต้องยกให้เป็นของน้องทั้งสองคน งานนี้ได้เจอเจ้าตัวเลยขอถามถึงเรื่องนี้กันสักหน่อย โดยหนุ่ม เกรท เผยว่า

ตอนนี้เป็น เสี่ยเกรท แล้วมีร้านทองเป็นของตัวเอง แม่ยกร้านทองให้เราแล้ว จริงๆ ยกให้แต่ร้านครับแต่ทองน่าจะอยู่ที่น้องหมดเลย

คือจริงๆ แล้วที่ร้านกิจการที่บ้านเราเป็นน้องด้วยซ้ำ กิ๊ฟกับกู๊ดเป็นแอดมินที่ร้านอยู่ คอยดูแลและก็เรียกว่าผลัดเปลี่ยนเตรียมที่จะขึ้นมาดูแลแทนแม่อยู่

ส่วนเราก็ยังทำงานตรงนี้ ทำไมแม่ถึงตัดสินใจยกร้านทองให้ ไม่ใช่แม่ไม่ได้ยกให้เรา คือเรียกว่าเป็นผู้ช่วยดูแลคอยดูแลและก็หลักๆ เป็นน้อง

เราก็ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นฝ่ายพีอาร์ไป แม่ยังไม่กล้ายกให้หรอก ส่วนตัวแม่ไม่ได้กังวลหรอก แต่แม่จะหยุดมาเที่ยวกับลูก

บางครั้งก็ตัดใจปิดร้านไม่ลงไง น้องก็บอกว่าแม่เข้ามาอยู่กับพี่เกรทเลย ไปเที่ยวกับพี่เกรทเวลาว่างๆ แม่จะได้พักผ่อนบ้าง

เพราะแม่ทำมานานแล้ว แต่เป็นเจ๊กุ้งต่างหากที่ไม่สามารถตัดใจปิดร้านได้ เปิดร้านก็ต้องยืนอยู่หน้าร้าน

เพราะลูกค้ามาไม่เห็นเจ๊กุ้งเขาก็ไม่สบายใจไง อนาคตมีโอกาสจะไปดูแลกิจการไหม อันนี้พูดกันจริงๆ เลยยังไม่ถึงขั้นนั้น

แต่ว่ามีน้องดูอยู่ ถ้าเป็นไปได้น้องถนัดก็ให้น้องดูไป เราหมดงานแสดงวันหนึ่งค่อยกลับไปช่วยน้อง

ไม่ใช่แม่กดดันยกกิจการให้เพื่ออยากให้เรามีครอบครัว แม่ไม่ได้กดดันเลยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องกิจการจริงๆ ก็ยังไม่เคยคุยหรอกว่าจะยกให้

แต่ว่าเป็นกองหนุนเต็มที่สำหรับน้อง ให้น้องดูแลไปดีที่สุด กิจการนี้เรากับน้องก็ไม่มีปัญหากัน ไม่แย่งน้องให้น้องเลย

เรียบเรียงโดย ทีมงาน news.in.th

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ