
บัวแก้วยัน ยังไม่เปิดด่าน ย้ำชัด ต้องบรรลุ3เงื่อนไขก่อน
วันที่ 12 กันยายน 2568 นาย นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง และเห็นชอบความร่วมมือในหลายด้าน ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกที่สำคัญ
หนึ่งในประเด็นหลักคือการ เก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม โดยจะมีการจัดตั้งคณะประสานงานร่วมภายใน 7 วัน เพื่อจัดทำแผนและกำหนดพื้นที่นำร่อง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจริงภายใน 1 เดือน
ด้าน การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของทั้งสองประเทศหารือร่วมกัน ตั้งคณะทำงานใน 1 สัปดาห์ โดยฝ่ายไทยได้ ส่งมอบพิกัดแหล่งสแกมเมอร์กว่า 60 แห่งในกัมพูชา ให้แล้ว และจะมีการประชุมประสานงานต่อเนื่องในวันที่ 16 ก.ย. ที่จังหวัดสระแก้ว
ที่ประชุมยังได้หารือความร่วมมือในประเด็นอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมความมั่นคง ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยมี 4 เรื่องสำคัญ
-การถอนอาวุธหนักออกจากชายแดน ภายในกรอบเวลาที่ตกลงกัน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
-การจัดการพื้นที่ทับซ้อน เช่น กรณีบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ให้ JBC เป็นผู้พิจารณาและให้ผู้ว่าราชการทั้งสองฝ่ายดูแลความสงบชั่วคราว
-ลดการเผยแพร่วาทกรรมยั่วยุ และข่าวปลอมในทั้งช่องทางทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างบรรยากาศเอื้อต่อการเจรจา
-หารือเปิดจุดผ่านแดนบางจุดบางประเภท เพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน โดยเริ่มจากจุดที่ไม่มีความขัดแย้ง
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ยังไม่มีการเปิดด่านชายแดน จนกว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมใน 3 ด้าน
-การถอนอาวุธหนัก
-การเก็บกู้ทุ่นระเบิด
-การปราบปรามสแกมเมอร์
การหารือ GBC ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของการใช้ กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ปัญหาอย่างสันติ โดยไทยยังคงยึดมั่นในหลักการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ การประชุม GBC ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นใน อีก 30 วัน โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพ
สำหรับกระแสที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในไทยโพสต์แสดงความหวังเรื่องการเปิดด่านชายแดน เพื่อแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน นาย นิกรเดช ชี้แจงว่า จะมีการสื่อสารทำความเข้าใจกับทางการญี่ปุ่นว่า การเปิดด่านยังเป็นแนวคิด และขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าใน 3 เงื่อนไขสำคัญข้างต้น
กระบวนการต้องใช้เวลา และต้องดูผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมก่อนจะดำเนินการใด ๆ ต่อไป โฆษก กต. กล่าว