
ผู้เสียหายแจ้งความ เจน ญาณทิพย์ ปมทองบริจาคหาย
วันที่ 9 กันยายน 2568 นางสาวชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำผู้เสียหาย 5 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ เจน ญาณทิพย์ เพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ โดยระบุว่ามีความผิดหลายฐาน
ฉ้อโกงประชาชน
ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโฆษณาชักชวนบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์
ความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค จากการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง
หนึ่งในผู้เสียหาย นางสาวใบหม่อน อายุ 50 ปี พนักงานบริษัท เปิดเผยว่า เริ่มรู้จักกับ เจน ญาณทิพย์ ตั้งแต่ปี 2556 และเคยร่วมทำบุญในหลายโครงการ โดยเฉพาะการก่อสร้างเจดีย์ที่วัดป่าภูผาสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งเธอเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าจิตอาสา
ในปี 2565 ได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อหลอมต่างหูเป็นทองนำไปประดิษฐานในเจดีย์ โดยโอนเงินเข้าบัญชีผู้จัดการส่วนตัวของเจน แต่จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการชี้แจงใด ๆ ว่าได้หลอมทองแล้วจริงหรือไม่ และไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เธอจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
นางสาวบี อายุ 30 ปี อดีตผู้ดูแลสำนักปฏิบัติธรรมของเจน ที่ จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า เคยบริจาคทองปี่เซียะมูลค่า 300-500 บาท ซึ่งเป็นทองแท้ มีใบรับประกัน ไปให้ เจน ญาณทิพย์ ผ่านทางผู้จัดการส่วนตัวเพื่อหลอมทองทำบุญ แต่หลังจากส่งของไปแล้ว ไม่มีการแจ้งความคืบหน้าหรือไลฟ์สดใด ๆ จึงเกิดความสงสัย
เธอยังตั้งข้อสังเกตว่า สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว เปิดใช้งานเพียง 2 ครั้ง ตลอดช่วงเวลากว่า 3 ปี 7 เดือน ทั้งที่มีการเปิดรับบริจาคเงินจำนวนมาก รวมถึงกรณี การก่อสร้างกุฏิสงฆ์ มูลค่า 2 ล้านบาท ซึ่งเธอยืนยันว่า มีผู้บริจาคเต็มจำนวนแล้ว แต่ยังพบว่ามีการเปิดรับเงินต่อเนื่อง โดยไม่มีการปิดยอดหรือชี้แจงความคืบหน้า
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่ซื้อ ยันต์กรามหมู ซึ่งมีการโฆษณาว่า ช่วยแก้โรคคางทูม และป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้ ถูกนำมาแจ้งความในความผิดตาม กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากโฆษณาเกินจริงและไม่มีหลักฐานรองรับสรรพคุณ
น.ส.ชฎาภรณ์ ระบุว่า ขณะนี้ในโลกออนไลน์มีการตั้งคำถามกรณีที่ เจน ญาณทิพย์ ทยอยโอนเงินคืนลูกศิษย์ 1-2 แสนบาท โดยอ้างว่าเป็นส่วนเกินจากการรับบริจาคกุฏิสงฆ์ ซึ่งมีคนโอนครบ 2 ล้านบาทแล้วตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังคงเปิดรับบริจาคต่อมาเรื่อย ๆ เธอจึงตั้งคำถามว่า การเปิดรับเงินต่อเนื่องโดยไม่แจ้งปิดโครงการถือว่าถูกต้องหรือไม่