จากเว็บต่างประเทศ ได้ออกมาเผยถึง กลุ่มปลาไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทู, ปลาซาร์ดีน, ปลากะตัก และ ปลาเฮร์ริง จัดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตามธรรมชาติ

กรดไขมันโอเมก้า-3 ทั้งชนิด DHA และ EPA ที่พบในปลาไขมันสูง มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และลดการเกิดลิ่มเลือดที่อาจนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน

ผลการวิเคราะห์จาก 29 งานวิจัยซึ่งถูกอ้างอิงโดย Eating Well ชี้ว่า ผู้ที่บริโภค EPA มากที่สุด มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองน้อยกว่าคนที่บริโภคน้อยที่สุดถึง 17% ส่วนผู้ที่รับ DHA มากที่สุดก็มีความเสี่ยงลดลง 12%

อีกหนึ่งงานวิจัยจากนิตยสาร BMJ ศึกษาผู้คนเกือบ 800,000 คน ใน 15 ประเทศทั่วโลก พบว่า ผู้ที่กินปลาที่มีไขมันดี 2-4 มื้อต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองน้อยกว่าคนที่กินเพียง 1 มื้อหรือน้อยกว่า ถึง 6% หากเพิ่มเป็น 5 มื้อต่อสัปดาห์ ความเสี่ยงจะลดลงถึง 12% และทุกครั้งที่เพิ่มอีก 2 มื้อต่อสัปดาห์ จะลดความเสี่ยงลงได้อีกประมาณ 4%

แม้ว่าน้ำมันปลาจะมีโอเมก้า-3 เช่นกัน แต่ผลวิจัยพบว่า การกินเนื้อปลาจริงจะได้ผลดีกว่าในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง นั่นเพราะในปลายังมีสารอาหารสำคัญอื่นๆ เช่น วิตามิน D, วิตามินกลุ่ม B, ซีลีเนียม และ โปรตีนไม่ติดมัน ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของโอเมก้า-3 และช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต

เพื่อให้ได้คุณค่าสูงสุด ควรเลือกวิธีปรุงที่ดีต่อสุขภาพ เช่น นึ่ง, ย่าง หรือ ตุ๋น แทนการทอดน้ำมันท่วม เพราะการทอดอาจก่อให้เกิดไขมันทรานส์ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือด แม้โรคหลอดเลือดสมองจะดูน่ากลัว แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงได้ง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน เช่น การเพิ่มเมนูปลาที่มีไขมันดีในแต่ละสัปดาห์

แค่สัปดาห์ละ 2 มื้อ เช่น มื้อเย็นกับ ปลาแซลมอนย่าง, ปลาซาร์ดีนในสลัด หรือ ปลาเฮร์ริงต้มพริกไทยดำ ก็เป็นทางเลือกที่อร่อย ทำง่าย และดีต่อสุขภาพของทั้งหัวใจ สมอง และหลอดเลือด