สภาเถียงวุ่น ญัตติด่วน MOU 43-44 ขอประชุมลับ พท.หวั่นเขมรรู้ทาง ฝ่ายค้าน ยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาปชช.

สภาเถียงวุ่น ญัตติด่วน MOU 43-44 ขอประชุมลับ พท.หวั่นเขมรรู้ทาง ฝ่ายค้าน ยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาปชช.

เมื่อเวลา 13.27 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้การนำของ นายไชยา พรหมา รองประธานสภาคนที่ 1 ได้มีการพิจารณากระทู้ถามทั่วไป จากนั้นมีการเสนอญัตติด่วนคดีชายแดนไทย-;กัมพูชาจาก ส.ส. จำนวน 5 ฉบับ

1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย (ส.ส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย) ขอให้สภาตั้ง กมธ. วิสามัญศึกษา MOU 43 และ 44

2. นายกรวีร์ สืบแสง (ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม) เสนอนำ MOU 43-44 มาศึกษาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดน

3. นายสฤษพงศ์ เกี่ยวข้อง (ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย) ช่วยยกญัตติของตนที่เคยยื่นเป็นลายลักษณ์อักษรมาประชุมด่วน

4. นายนพดล ปัทมะ (ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) ขอให้ศึกษา MOU 43-44 เพื่อส่งให้รัฐบาลดำเนินการ

5. นายรอมาฎอน ปันจอร์ (ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน) ขอจัดตั้ง กมธ. วิสามัญศึกษาบันทึกความเข้าใจด้านชายแดนและทะเล

พล.ต.ต.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม. สุรินทร์ เปิดเผยว่า ยังไม่ส่งตัวเด็กและแม่กลับกัมพูชา ขณะนี้ส่งตัวไปยัง พม. สุรินทร์ เพื่อสอบสวนและดูแลตามสิทธิเด็กเบื้องต้น

พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ผลักดันเด็กและแม่กลับประเทศกัมพูชา แต่ส่งตัวไปยัง พม. จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน เบื้องต้นพบว่าเด็กจะสมัครใจกลับกัมพูชาเพื่อดำเนินการทำบัตรให้ถูกต้องและกลับเข้าเมืองอย่างถูกกฏหมาย

หลังจากที่มีการเสนอญัตติ พรรคเพื่อไทยโดย นายวัชระพล ขาวขำ ย้ำว่า รัฐบาลไม่ขัดข้องและขอให้ตั้งกรรมาธิการ แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบความมั่นคง-ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ จึงควรอภิปรายใน ระบบประชุมลับ

ในทางตรงกัน น.ส.แนน เรียกร้องความโปร่งใส ยืนยันว่า ไม่ได้ตกลงกันล่วงหน้า และเนื่องจากเนื้อหาของ MOU 43-44 เป็นเรื่องสาธารณะมานาน จึงไม่ควรปิดประชุม

นายวัชระพลจึงออกมาขอโทษที่สื่อสารคลาดเคลื่อน ยอมให้เสนอญัตติได้แบบเปิดเผย แต่หากเข้าสู่ช่วงอภิปรายแล้ว ขอให้เปลี่ยนเป็น ประชุมลับ

นายไชยาในฐานะประธานประชุมยอมรับว่าเกิดการสื่อสารผิดพลาดในสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้ประชุมหยุด จึงขอร่วมประสานทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลให้เป็นเอกภาพ เพราะเรื่องนี้คือเวทีให้พูดในสภา

ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทยและฝ่ายค้านหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ประชุมลับ โดยระบุว่า สถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชาชนมีสิทธิรู้ ไม่ควรปิดกั้นข้อมูล

ทางด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ (ประธานวิปรัฐบาล พรรคเพื่อไทย) เห็นด้วยกับการเปิดให้อภิปรายได้ แต่กังวลว่าหากเปิดเผยเนื้อหาโดยไม่ควบคุม อาจกระทบสัมพันธไมตรี-ความมั่นคง จึงควรเป็น ประชุมลับ ในช่วงอภิปรายเท่านั้น

นายสุทิน คลังแสง (พรรคเพื่อไทย) เสริมว่า แม้การอภิปรายเรื่องความมั่นคงจำเป็นต้องมีวุฒิภาวะ และอาจต้องปิดบางเรื่องจากคู่เจรจา แต่ไม่ควรปิดโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน รัฐธรรมนูญเองก็เปิดทางให้มีการประชุมลับเพื่อประโยชน์ของชาติ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ