วันที่ 26 สิงหาคม 2568 รายการ โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้พูดคุยเจาะลึกคดีใหญ่ที่สะเทือนวงการศาสนา กรณีการเข้าจับกุม พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต พูลมุข) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมกับ หมอบี (นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล) ผู้ใกล้ชิด ตามหมายจับศาลคดีทุจริตฯ ในข้อหา ยักยอกเงินบริจาค ฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

การเข้าจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยชุดตำรวจสอบสวนกลางได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวทั้งสองที่กรุงเทพฯ และนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อที่กองปราบปราม

ในรายการวันนี้ คุณเบิร์ด ระบุว่า หลวงพ่อต้องทราบพฤติกรรมของหมอบีมานานแล้ว โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อมีการสั่งซื้อรถ Suzuki Jimny โดยหมอบีอ้างว่าจะโอนเงินให้หลวงพ่อเป็นจำนวน 2.8 ล้านบาท แต่สุดท้ายหลวงพ่อได้รับเงินจริงเพียง 1.5 ล้านบาท อีก 1.3 ล้านหายไป และมีรถมาส่งในวันถัดไป ซึ่งเบิร์ดเชื่อว่าเป็นเงินที่หมอบีนำไปซื้อรถดังกล่าว แต่ยังไม่มีใครทราบว่ารถอยู่ที่ไหนในขณะนี้

มหาหมี หนึ่งในผู้ร่วมรายการระบุว่า คดีหมอบีเป็นคดีที่ สำเร็จแล้ว ในทางกฎหมาย แต่การจับกุมล่าช้าเพราะตำรวจต้องการ ขยายผลไปถึงวัดและหลวงพ่อ เพื่อคลี่คลายขบวนการยักยอกเงินทั้งระบบ โดยเฉพาะประเด็น ความผิดตามมาตรา 147, 157 และการฟอกเงิน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หมอบี แต่ใครก็ตามที่ ได้รับทรัพย์จากเงินบริจาคโดยมิชอบ จะต้องถูกตรวจสอบในลำดับถัดไปด้วย

จากพฤติการณ์พยายามหลบหนีและพยานหลักฐานแน่นหนา ผู้ร่วมรายการต่างเห็นพ้องว่า โอกาสที่หมอบีและพระอลงกตจะได้รับการประกันตัวมีน้อยมาก โดยเฉพาะในกรณีของพระอลงกต จะต้องเข้าสู่กระบวนการ จับสึกภายใน 48 ชั่วโมง ตามขั้นตอนของสำนักงานพระพุทธศาสนา

ทนายเกิดผล แก้วเกิด อดีตที่ปรึกษากฎหมายของวัดพระบาทน้ำพุ เปิดใจในรายการว่า เคยเข้าไปประชุมกับหลวงพ่อและกรรมการวัดตั้งแต่เรื่องเริ่มต้นใหม่ๆ และรู้สึกได้ว่า มีการปกปิดข้อมูลสำคัญ ไม่ให้ตนเข้าถึงหลักฐาน และเมื่อสอบถามก็กลับได้คำตอบจากบุคคลภายนอกหรือหมอบี มากกว่าจากหลวงพ่อโดยตรง

ผมเคยเตือนหลวงพ่อแล้วว่า ถ้าไม่รีบจัดการ จะเข้าข่ายฉ้อโกงและยักยอกเงินวัด แต่หลวงพ่อไม่ฟัง ทนายเกิดผลกล่าว พร้อมเสริมว่า ความเสียใจที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่คือการ หลอกศรัทธา สร้างตัวตนที่ไม่จริง ผมรู้สึกเหมือนอกหัก รักและศรัทธาใครสักคน แล้ววันหนึ่งก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่เราคิดไว้