วันที่ 23 สิงหาคม สถานการณ์อุทกภัยในเขตเมืองเชียงใหม่ หลังเกิดฝนตกหนักบนดอยสุเทพในช่วงค่ำวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าหลากทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณ ถนนห้วยแก้ว ซอย 3 ต.สุเทพ และ บ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่

กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า บนดอยสุเทพมีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 95.2 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำจากลำห้วยบนดอยไหลลงมาสู่ลำเหมืองห้วยแก้ว ก่อนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ชุมชน โดยระดับน้ำในบางจุดสูงถึง 40-50 เซนติเมตร และใช้เวลากว่า 6-7 ชั่วโมง จึงลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเช้ามืดของวันที่ 23 สิงหาคม

บริเวณ สวนอัญญา เฮือนครูองุ่น มาลิก และหอประวัติศาสตร์ประชาชนภาคเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยห้วยแก้ว 3 พบว่าได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดกับลำเหมืองห้วยแก้ว

นายนลธวัช มะชัย ตัวแทนจากกลุ่ม ลานยิ้มการละคร เปิดเผยว่า น้ำท่วมรอบนี้มาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 15 นาที ทำให้ระดับน้ำสูงกว่า 1.8 เมตร จนไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทัน แม้จะเคยเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยการย้ายอุปกรณ์บางส่วนออกไปแล้ว แต่ยังต้องนำอุปกรณ์สำคัญกลับมาเพื่อจัดกิจกรรมเยาวชน ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ลำโพง ไมโครโฟน และเครื่องเสียงต่างๆ ถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

นางแอ๊ด อายุ 65 ปี ชาวบ้านในซอยห้วยแก้ว 3 เผยว่า น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วจนเก็บของไม่ทัน ขณะเดียวกันยังมี ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง อยู่ในบ้าน ทำให้ครอบครัวต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โชคดีที่ระดับน้ำไม่สูงจนต้องอพยพผู้ป่วยออกมา

นางแอ๊ดยังระบุว่า น้ำท่วมครั้งนี้กินเวลากว่า 6 ชั่วโมง เนื่องจากเจ้าหน้าที่มา เปิดประตูระบายน้ำช้า และลำเหมืองห้วยแก้วก็ ระบายน้ำลงคลองชลประทานไม่ทัน ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี แม้จะมีการขุดลอกลำเหมืองแล้วก็ตาม แต่ปริมาณน้ำจากดอยสุเทพยังมากเกินกว่าระบบจะรองรับ

ชาวบ้านอยากให้ เทศบาลนครเชียงใหม่ สร้าง ผนังป้องกันน้ำท่วม ความยาวประมาณ 200 เมตร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในอนาคต นางแอ๊ดกล่าว

ด้านพื้นที่ บ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน โดยระดับน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าด้วยความรวดเร็ว ทำให้ทรัพย์สินจำนวนมากได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชาวบ้านต่างเร่งทำความสะอาดหลังน้ำลด

เทศบาลตำบลช้างเผือก ได้นำ รถน้ำเข้าช่วยเหลือทำความสะอาด พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อจัดสรรความช่วยเหลือในลำดับต่อไป เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นชุมชนใหญ่ มีทั้งบ้านเรือน ร้านค้า และสถานประกอบการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณใกล้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา