เทศบาล ยืนยันตัวตน ผู้เสียชีวิตวัดพระบาทน้ำพุ ได้แล้ว 15 ร่าง บางราย ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคเอดส์

เทศบาล ยืนยันตัวตน ผู้เสียชีวิตวัดพระบาทน้ำพุ ได้แล้ว 15 ร่าง บางราย ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคเอดส์

ความคืบหน้ากรณี ศพผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ร่าง ที่ถูกเก็บไว้ในห้อง ศาลาธรรมสังเวช วัดพระบาทน้ำพุ โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย ล่าสุด นายสามารถ ศรีทรง รองปลัดเทศบาลเมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ทางวัดจะดำเนินการฌาปนกิจศพทั้งหมดตามคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข หลังพบว่าเป็นการเก็บศพโดย ไม่ผ่านขั้นตอนทางกฎหมาย

ทั้งนี้ เทศบาลจะเรียกให้วัดมาชำระค่าปรับตาม พ.ร.บ.สุสานฯ ในอัตราไม่เกิน ศพละ 1,000 บาท แม้วัดจะอ้างว่าเก็บไว้เพื่อเป็น วิทยาทานหรืออุทาหรณ์แก่สาธารณชน ก็ตาม

นายสามารถเผยว่า ขณะนี้ทางเทศบาลได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนของผู้เสียชีวิตครบถ้วนแล้ว 15 รายจากทั้งหมด 20 ราย โดยจะส่งมอบให้วัดดำเนินการฌาปนกิจตามพิธีกรรมทางศาสนาได้ทันที ส่วนที่เหลืออีก 5 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบข้อมูล

พิธีทางศาสนาจะดำเนินการโดยเจ้าคณะตำบลเขาสามยอด ซึ่งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุในขณะนี้

ในบรรดาศพที่ถูกเก็บไว้ มี โครงกระดูกของนายไสว เอมวิวัฒน์ อดีตนายอำเภอบ้านหมี่ และ อัฐิของนางปิ่นทอง เอมวิวัฒน์ ภรรยา ซึ่งถูกวางไว้ใต้ร่างของสามีภายในศาลาธรรมสังเวช โดยล่าสุด นางชิดชม อายุ 80 ปี ญาติของนางปิ่นทอง ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อยืนยันความสัมพันธ์และ ยินยอมให้ทางวัดดำเนินการฌาปนกิจศพ ดังกล่าว

นางชิดชมระบุว่า ทั้งนายไสวและภรรยา ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ แต่เสียชีวิตด้วยโรคชรา โดยเคยบริจาคร่างกายไว้เป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับโรงพยาบาลสวนดอก จ.เชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการศึกษา ทางวัดพระบาทน้ำพุได้ขอรับร่างกลับมาจัดเก็บไว้ตามเจตนาของผู้ตาย เพื่อใช้เป็นวิทยาทาน

ตามคำบอกเล่าของนางชิดชม นางปิ่นทองเคยสั่งเสียไว้ว่า เมื่อถึงเวลาฌาปนกิจ ขอให้นำอัฐิของตนมาเก็บไว้ใต้ร่างของสามี เพื่อให้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป แม้จากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งทางวัดก็ได้ดำเนินการตามความปรารถนาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

เทศบาลเมืองเขาสามยอดยืนยันว่า ทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินการตามกฎหมายและหลักสาธารณสุขอย่างเข้มงวด พร้อมเตรียมดำเนินการฌาปนกิจศพที่ตรวจสอบเสร็จแล้วโดยเร็วที่สุด ส่วนศพที่เหลือยังต้องรอการยืนยันอัตลักษณ์ให้ครบถ้วน ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการทางศาสนาต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ