โฆษกกองทัพบก โต้กลับกัมพูชา ปมวางทุ่นระเบิดโจมตีฝ่ายไทย

โฆษกกองทัพบก โต้กลับกัมพูชา ปมวางทุ่นระเบิดโจมตีฝ่ายไทย

พลตรีวินธัย สุวารี ตัวแทนกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้บรรยายสรุปต่อ คณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน, รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา, ผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ฝ่ายไทยยืนยันว่า แม้กัมพูชาจะปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็น ระเบิดตกค้างจากอดีต แต่หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ฝ่ายไทยรวบรวมได้กลับชี้ชัดว่าเป็น การวางทุ่นระเบิดเพื่อการโจมตีโดยตรง ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมและพันธกรณีระหว่างประเทศตามอนุสัญญาออตตาวา

กองทัพไทยเผย 8 หลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าเป็นฝีมือกัมพูชา

1. ยุทธวิธีการวางทุ่นระเบิด ทุกครั้งที่กองกำลังจากกัมพูชาวางกำลังในแนวหน้า มักพบแนวทุ่นระเบิดบริเวณนั้น

ช่องบก (16 ก.ค.)

ช่องอานม้า (23 ก.ค.)

ปราสาทตาควาย (28 ก.ค.)

ฐานกฤษณา (9 ส.ค.)

ปราสาทตาเมือนธม (12 ส.ค.) โดยพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งที่ระเบิดแล้วและยังไม่ระเบิด จำนวน 3-5 ลูกต่อจุด

2. พื้นที่มีเพียงสองฝ่าย

คู่ขัดแย้งในพื้นที่มีเพียงไทยและกัมพูชา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเฉพาะฝ่ายไทยที่ได้รับผลกระทบ จึงไม่สมเหตุสมผลที่จะเป็นการทำร้ายตนเอง

3. พบทุ่นระเบิดหลังการหยุดยิง

วันที่ 4 ส.ค. ขณะมีการสถาปนาความมั่นคงบริเวณภูมะเขือ พบทุ่นระเบิด PMN-2 ในแนวตั้งกำลังเดิมของกัมพูชา

4. หลักฐานจากโซเชียลมีเดีย

พบภาพ Influencer ชาวกัมพูชา ถ่ายคลิปใกล้ปราสาทตาควาย โดยมีพวงทุ่นระเบิด PMN-2 ปรากฏอยู่ในภาพ

5. คลิปเสียงจากแหล่งข่าว

มีคลิปพร้อมเสียงพูดของทหารกัมพูชา ขณะกำลังเคลื่อนย้ายทุ่นระเบิด PMN-2 เพื่อไปวางยังจุดใหม่

6. พฤติกรรมในการประชุม GBC

กัมพูชาไม่รับข้อเสนอจากไทยในการร่วมเก็บกู้ แม้จะได้รับภาพลักษณ์เป็นประเทศที่ต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดและได้รับเงินทุนสนับสนุนสูงทุกปี

7. ข้อมูลจาก TMAC

(ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ) การเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ช่องบกและช่องอานม้าเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2562 รวมกว่า 1,300 ลูก ไม่เคยพบชนิด PMN-2 มาก่อน

8. การไม่ให้ความร่วมมือในพื้นที่ชายแดน

TMAC รายงานว่า กัมพูชามักไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนที่มีความเสี่ยงสูง

พลตรีวินธัยระบุว่า ข้อมูลทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว และจะมีการเผยแพร่ต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้เกิดความรับผิดชอบต่อการใช้ทุ่นระเบิดที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและความมั่นคงของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ