ในวันที่ 15 สค. 2568 พันตำรวจตรีจักรทอง คำมาพล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่บางบ่อ จึงรายงานให้พันตำรวจเอกวิรัชต์ รุ่งเรือง ผู้กำกับการ สภ.บางบ่อ ทราบ พร้อมประสานชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นหนึ่งของห้างดังกล่าว พบร้านทองยังอยู่ในภาวะโกลาหล พนักงานหลายคนยังอยู่ในอาการตกใจ โดยคนร้ายเป็นชายหนึ่งราย แต่งกายคล้ายไรเดอร์ส่งอาหาร เสื้อแจ็คเก็ตสีเขียว กางเกงขายาว รองเท้าแตะ สะพายกระเป๋าข้าง และสวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า บุกเข้าไปในร้าน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดจี้พนักงาน จากนั้นตรงไปที่เคาน์เตอร์ทอง กวาดทองรูปพรรณไปได้กว่า 163 บาท ก่อนปีนข้ามเคาน์เตอร์ วิ่งหนีออกจากห้าง และขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า PCX สีดำ ที่จอดไว้หน้าห้าง หลบหนีไปทางถนนบางนาตราด

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่วิทยุสกัดเส้นทางรอบพื้นที่ พร้อมประสานสถานีตำรวจใกล้เคียงให้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนี ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายเดินเข้าร้านทอง ชักปืนขึ้นข่มขู่พนักงาน พร้อมสั่งให้หยิบทองมาให้ โดยไม่เปิดโอกาสให้ขัดขืน

ข้อมูลจากพยานระบุว่า ทองที่คนร้ายได้ไปส่วนใหญ่เป็นสร้อยข้อมือน้ำหนักเส้นละ 3 และ 5 บาท จำนวนหลายเส้น โดยพลเมืองดีสามารถถ่ายคลิปขณะคนร้ายกำลังกวาดทองจากถาดในตู้โชว์ไว้ได้ ก่อนที่ชายรายนี้จะวิ่งออกไปยังลานหน้าห้าง แล้วขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

นางสาวน้ำฝน อายุ 29 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่บริเวณหน้าห้าง ให้การว่า เห็นคนร้ายมาเพียงคนเดียว แต่งกายมิดชิด ดูท่าทางคล่องแคล่ว คาดว่าน่าจะอายุประมาณ 30 ปี ส่วนขณะก่อเหตุไม่ทราบว่าพูดข่มขู่พนักงานหรือไม่ รู้เพียงว่าเกิดเหตุรวดเร็วและหลบหนีไปทันที

นายฉัตรชัย พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง เปิดเผยว่า พยายามแจ้งให้คนร้ายถอดหมวกกันน็อกตามระเบียบ แต่ชายดังกล่าวไม่สนใจ และรีบเดินเข้าไปในร้านทอง ก่อนจะก่อเหตุในเวลาอันสั้น

ด้านพนักงานชายของร้านทองให้ข้อมูลว่า คนร้ายปีนเคาน์เตอร์เข้ามาพร้อมพูดว่า หยิบทองมา ทำให้เขาต้องสั่งให้พนักงานหญิงหมอบลงเพื่อความปลอดภัย พร้อมถอยออกห่าง เนื่องจากเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาวุธปืนอยู่ในมือ

หลังเกิดเหตุ พลตำรวจตรีวิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายมาก่อเหตุเพียงลำพัง โดยมีการปลอมตัวเป็นไรเดอร์ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดบริเวณหน้าห้าง เดินเข้าร้านทองและชักปืนข่มขู่พนักงานอย่างรวดเร็ว

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทองรูปพรรณที่ถูกชิงไป ส่วนใหญ่เป็นสร้อยข้อมือหลายขนาด น้ำหนักรวมกว่า 163 บาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของพื้นที่และตำรวจภูธรภาค 1 ได้รับคำสั่งให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง เพราะคนร้ายมีอาวุธปืน และหากเกิดการขัดขืนหรือมีความเสี่ยงต่อสาธารณะ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด