กองปราบ เผย หมอบี อาจเข้าข่ายฉ้อโกงปชช. พร้อมเตือนหลวงพ่อ หากมีส่วนรู้เห็น

กองปราบ เผย หมอบี อาจเข้าข่ายฉ้อโกงปชช. พร้อมเตือนหลวงพ่อ หากมีส่วนรู้เห็น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณี "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์แสนสุข ที่ตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องบัญชีรับบริจาคให้กับ วัดพระบาทน้ำพุ เมื่อคืนวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.20 น. หมอบีเดินทางไปยัง ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นานกว่า 7 ชั่วโมงเต็ม โดยนำเอกสารจำนวนหลายแฟ้มเข้าแสดงกับเจ้าหน้าที่

การให้ปากคำครั้งนี้หมอบีตอบคำถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับบัญชีที่ใช้รับบริจาคผ่านเพจ งมงายสไตล์หมอบี ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 2560 โดยใช้ชื่อของหมอบีเองในการรับเงินบริจาคอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือกิจการของวัดพระบาทน้ำพุ

ระหว่างการสอบปากคำ หมอบีมีการขอเข้าห้องน้ำประมาณ 3-4 ครั้ง และพักรับประทานอาหารรอบดึกในเวลา 21.30 น. ก่อนจะสอบต่อจนจบในเวลาเที่ยงคืน หลังจากนั้นหมอบีพร้อมทีมอีก 4 คนจึงเดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้าอ่อนล้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นต่างๆ แต่หมอบีให้คำตอบเพียงสั้น ๆ ว่า

หลังจากออกจากโรงพยาบาลเมื่อวาน วันนี้ผมได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับทางกองปราบเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดต่างๆ ผมตอบไปหมดแล้วในรายการทีวีช่องหนึ่ง

เมื่อถามถึงกรณีเลขาฯ หมอบีขอไม่แสดงความเห็น พร้อมทิ้งท้ายอย่างมั่นใจว่า ถ้าทำดี ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มันไม่มีทางขัดกับกฎหมาย มันถูกต้อง

เมื่อถูกถามต่อถึงประเด็นว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือกลุ่มพรรคพวกของหลวงพ่อหรือไม่ หมอบีเลือกที่จะไม่ตอบและเดินขึ้นรถกลับทันที

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มมีผู้ร้องเรียนมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ให้ตรวจสอบการเบิกถอนเงินจากบัญชีของหมอบี ที่มีลักษณะเป็นบัญชีบุคคล ใช้รับเงินบริจาคผ่านเพจส่วนตัว ซึ่งระบุว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในกิจกรรมของวัดพระบาทน้ำพุ

ผลจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการ เบิกเงินออกจากบัญชีรวมถึง 101 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท แต่ในการส่งมอบให้ทางวัด บางรายการพบว่าได้รับไม่ครบ เช่น กรณีหนึ่งมีการเบิกเงินกว่า 3 ล้านบาท แต่ส่งมอบให้เจ้าอาวาสเพียง 1 ล้านบาท

ถึงแม้ในขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับหมอบีจากทางวัด แต่เจ้าหน้าที่มองว่า มีมูลความผิด และกำลังตรวจสอบว่าเจตนาในการเปิดรับบริจาคนั้นแท้จริงแล้วนำเงินไปใช้อย่างไร หากไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ตอนขอรับบริจาค อาจเข้าข่ายความผิด ฉ้อโกงประชาชน

หมอบีเดินทางมาในวันนี้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เป็นการเข้ามาลงบันทึกประจำวัน เพื่อแสดงจุดยืนว่า ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี ตามที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ พร้อมนำเอกสารบางส่วนมาแสดงกับพนักงานสอบสวนด้วย

ทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นคดีความ เนื่องจาก ยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ แต่หากประชาชนที่ร่วมบริจาคเห็นว่าเงินของตนไม่ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ก็สามารถแจ้งความเพื่อเข้าสู่กระบวนการได้

ในอีกหนึ่งประเด็นที่กำลังตรวจสอบอย่างละเอียด คือการที่หมอบีนำเงินจากบัญชีบริจาคไปซื้อที่ดิน โดยอ้างว่าใช้ทำสถานปฏิบัติธรรม หากพบว่าเป็นทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัวของหมอบีเอง ก็อาจถือเป็นพฤติกรรมที่ ไม่สุจริต และขัดต่อเจตนาการบริจาค

พ.ต.อ.เอนก กล่าวย้ำว่า การเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคให้วัด ต้องโปร่งใส และเงินทุกบาทควรนำไปใช้อย่างตรงวัตถุประสงค์ พร้อมเตือนเจ้าอาวาสว่า หากมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยในฐานะเจ้าพนักงาน ก็อาจถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน สุดท้าย ทางตำรวจกองปราบฯ ยังคงดำเนินการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รวมถึงบุคคลใกล้ชิดหมอบี ญาติของเจ้าอาวาส และคณะกรรมการวัดที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินบริจาค โดยยังไม่เปิดเผยรายชื่อในขณะนี้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ