
กองปราบ เผย หมอบี เปิดบัญชีรับบริจาค ยอดพุ่งสูง 200 ล้าน ชี้ปมยักยอกมีมูล
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา นายเสกสันน์ ทรัพย์แสนสุข หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้เดินทางไปยัง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมเอกสารจำนวนมากถึง 3 ถุงใหญ่ เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน นานกว่า 3 ชั่วโมง เกี่ยวกับประเด็นที่กำลังเป็นกระแสสังคม ว่าด้วยการเปิดบัญชีรับเงินบริจาคให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งในช่วงหลังถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสในการจัดการเงิน
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า มีผู้แจ้งให้ตรวจสอบบัญชีรับบริจาคของหมอบีมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยบัญชีดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่ปี 2562 และเป็นบัญชีประเภทบุคคลธรรมดาในชื่อของหมอบี ซึ่งมีสิทธิ์เบิกถอนได้เพียงผู้เดียว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการ เบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวมากกว่า 100 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และในหลายครั้งยอดเงินที่เบิกออกไม่สอดคล้องกับยอดที่ส่งถึงวัด ยกตัวอย่างเช่น มีรายการหนึ่งเบิกเงินออกมา กว่า 3 ล้านบาท แต่ส่งมอบให้หลวงพ่ออลงกตเพียง ประมาณ 1 ล้านบาท เท่านั้น
การเดินทางเข้ากองปราบครั้งนี้ หมอบีไม่ได้มีหมายเรียกหรือหมายจับ แต่เดินทางมา ลงบันทึกประจำวัน ด้วยตนเอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนี พร้อมนำเอกสารบางส่วนมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายจากบัญชีดังกล่าว
พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า การที่หมอบีเข้ามาให้ข้อมูลก่อนที่เจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียก ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา และไม่ส่งผลต่อรูปคดี หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที เพราะเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดิน
อีกหนึ่งประเด็นที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบคือ กรณีที่หมอบีนำเงินไปซื้อที่ดินในชื่อของตัวเอง โดยอ้างว่าจะใช้สร้างสถานปฏิบัติธรรม หากตรวจสอบแล้วพบว่า เงินก้อนนั้นเป็นเงินจากบัญชีบริจาคเพื่อวัด และนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพราะเงินบริจาคควรเข้าสู่วัดทุกบาททุกสตางค์ตามเจตนาของผู้บริจาค
จากข้อมูลที่มีในขณะนี้ ตำรวจพบว่า มีมูลความผิดในเบื้องต้น โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการนำเงินบริจาคไปใช้เป็นการส่วนตัว โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของวัด ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงคนใกล้ชิดที่มีอำนาจเบิกถอนเงิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว ถูกเรียกมาสอบปากคำแล้วบางส่วน และยังมีอีกหลายคนที่เตรียมจะเรียกมาสอบเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ยังต้องรอข้อเท็จจริงจากทางวัดพระบาทน้ำพุว่ารับรู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินบริจาคหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเจ้าอาวาสหรือคณะกรรมการวัดรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย ก็อาจถูกพิจารณาในฐานะเจ้าพนักงานที่มีส่วนร่วมในความผิดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทางวัดพระบาทน้ำพุ ยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับหมอบี ทำให้เรื่องนี้ยังไม่ถือว่าเข้าสู่ขั้นตอนของคดีความ แต่ทางกองปราบฯ ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบและเตรียมดำเนินการตามกระบวนการ ซึ่งหากตรวจสอบเสร็จแล้วพบว่ามีเจตนาไม่สุจริต การดำเนินคดีจะสามารถเริ่มต้นได้จากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแม้แต่ผู้บริจาคที่รู้สึกว่าเงินของตนไม่ได้ถูกนำไปใช้ตามเจตนา