เรียกได้ว่า หลายคนคงเคยได้ยิน ตำนานนายแตงหวาน หรือที่รู้จักในชื่อ พระเจ้าแตงหวาน กันมาบ้างแล้ว เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่มีอิทธิพลลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนแค่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ยังบ่งบอกถึงจุดเปลี่ยนของอัตลักษณ์ชาติของกัมพูชา ที่ไม่ใช่ขอมโบราณอีกต่อไป

โดย พระเจ้าแตงหวาน เริ่มต้นชีวิต จากทาส ในพื้นที่ทางตอนใต้ของอาณาจักรขอม ในช่วงเวลานั้นราชวงศ์สุริยวรมัน กำลังอ่อนแอลง พระเจ้าแตงหวาน สามารถรวบรวมกลุ่มชนที่ถูกกดขี่ และ ทาส เพื่อร่วมกันก่อการกบฏ ปลุกกระแสการเปลี่ยนแปลง จนสามารถโค่นล้มอำนาจเดิม และก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ ที่ตั้งอยู่พนมเปญในภายหลัง เพื่อยืนยันสิทธิในการปกครอง พระเจ้าแตงหวาน เลือกใช้กลยุทธ์การแต่งงาน กับ พระราชธิดาของกษัตริย์องค์ก่อน และได้รับการยอมรับผ่านพิธีการ ช้างหลวงเลือกกษัตริย์ เป็นสัญลักษณ์ของความชอบธรรม ในทางวัฒนธรรมขอม ที่สืบทอดมา

หลังจากการปฏิวัติอำนาจ พระเจ้าแตงหวาน ได้ย้ายศูนย์กลางการปกครองจากเมืองพระนครหลวงไปยัง เมืองใหม่ทางใต้ ที่กลายเป็นฐานของราชวงศ์ใหม่ ที่ถูกปกครอง โดยลูกหลานของพระองค์ในเวลาต่อมา เช่น พระเจ้านิรวาณบท

ต่อมา ได้มีคำสาปจาก ชัยวรมัน ที่กล่าวถึงผู้ที่ทรยศ พระชัยวรมัน และ ลูกหลาน จะตกอยู่ในความพินาศตลอดไป และมีความเชื่อกันว่า เริ่มส่งผลในยุค พระเจ้าแตงหวาน สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และวัฒนธรรม รวมถึงการตกเป็นเมืองขึ้นของกัมพูชา และการสูญเสียอิทธิพลจากขอมโบราณ การขึ้นครองราชย์ของ พระเจ้าแตงหวาน นั้น เป็นการหลอมรวมของชนชาติกัมพูชา ที่มีทั้งชาวขอม , ทาส , และชาติพันธุ์อื่น เช่น ชาวจาม วัฒนธรรมของ ราชวงศ์แตงหวาน จึงแตกต่างจากขอมโบราณ ที่เน้นชนชั้นสูง และพิธีกรรมทางศาสนา

ถึงแม้ จะไม่มีหลักฐานทางโบราณคดี ที่ยืนยันถึงการมีอยู่จริงของพระเจ้าแตงหวาน ตำนานของพระองค์ ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการสร้างอัตลักษณ์ชาติของกัมพูชา การเปลี่ยนแปลงจากทาส สู่กษัตริย์

ขอบคุณข้อมูล จาก เรื่องเล่าจากบันทึก

เรียบเรียงโดย news.in.th