
หมอเตือน 1 พฤติกรรมการกินแบบผิดๆ เสี่ยงหลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง
เมื่อไม่นานมานี้ นพ.เจิ้ง หงจื้อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารจากไต้หวัน ได้เล่าเรื่องหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งอาจเปลี่ยนความเคยชินของใครหลายคนที่ชอบซดซุปร้อน ๆ ควบคู่กับอาหารมื้อหลัก
เขาเล่าถึง ผู้ป่วยชายสูงอายุรายหนึ่ง ที่มาพบแพทย์เนื่องจากมีอาการกลืนอาหารลำบาก รู้สึกแน่นหน้าอก และไม่หายแม้จะไปตรวจบ่อยกับหมอหู คอ จมูก พอตรวจด้วยกล้องส่องภายใน กลับพบว่าเยื่อบุหลอดอาหารช่วงล่างเริ่มมีความผิดปกติ
เมื่อสอบถามประวัติเพิ่มเติม จึงพบว่าเขามีนิสัย กินข้าวพร้อมซุปร้อนจี๋ทุกวัน มานานหลายปี ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของอาการที่เกิดขึ้น
หมอเจิ้งอธิบายว่า พฤติกรรมการดื่มน้ำซุปร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด มะเร็งหลอดอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่เชื่อว่าซุปต้องดื่มตอนร้อนจัดถึงจะอร่อยที่สุด
ที่น่ากังวลคือ หลอดอาหารไม่มีเยื่อบุหนา ๆ เหมือนกระเพาะอาหาร จึงบาดเจ็บจากความร้อนได้ง่าย หากสัมผัสความร้อนจัดซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกลายพันธุ์ของเซลล์ จนนำไปสู่ โรคมะเร็งหลอดอาหาร
องค์การอนามัยโลก (WHO) เองก็เคยออกมาเตือนตั้งแต่ปี 2016 โดยจัดให้ เครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 65 องศาเซลเซียส เป็น สารที่อาจก่อมะเร็งในมนุษย์(กลุ่ม 2A) เช่นเดียวกับงานวิจัยในปี 2019 จากเมือง Golestan ประเทศอิหร่าน ที่พบว่า ผู้ที่ดื่มของร้อนจัดเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารสูงขึ้นถึง เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มในอุณหภูมิอุ่นหรือเย็น
หมอเจิ้งยังแนะนำเทคนิคง่าย ๆ 3 ข้อในการป้องกันตัวเองจากอันตราย
1.อย่าฝืนกินคำแรกถ้ายังร้อนถ้าจิบคำแรกแล้วยังรู้สึกแสบลิ้น แปลว่ายังร้อนเกินไป ควรปล่อยให้เย็นก่อน เพราะทุกคำที่ร้อนจัด คือการเผาเยื่อบุหลอดอาหารโดยไม่รู้ตัว
2.เช็กความร้อนด้วยปลายลิ้น + คนซุปก่อนกินปลายลิ้นไวต่ออุณหภูมิ ควรใช้แตะก่อนที่ขอบช้อน หรือปากแก้ว และคนซุปเบา ๆ 2-3 รอบก่อนซด จะช่วยให้อุณหภูมิสม่ำเสมอ ไม่ร้อนเฉพาะบางจุด
3.จิบทีละน้อย อย่าซดรวดเดียวการซดซุปร้อนคำใหญ่ อาจทำให้เนื้อเยื่อภายในหลอดอาหารถูกลวกอย่างเฉียบพลัน เสี่ยงบาดเจ็บลึก วิธีที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ จิบ และเว้นช่วงระหว่างคำ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิ
ไม่ร้อนจนลวกปาก นั่นแหละคือการปกป้องหลอดอาหารที่ดีที่สุด หมอเจิ้ง หงจื้อ
แม้ซุปร้อนจะทำให้อาหารอร่อยขึ้น แต่อย่าลืมว่า ความร้อนที่มากเกินไปอาจทิ้งรอยแผลในร่างกายโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว รอให้เย็นลงอีกนิด แล้วค่อยซดเพื่อสุขภาพที่ยืนยาวกว่า