
ปชน. ค้านรถไฟฟ้า 20 บาท เพื่อไทย ย้อนถาม ใครกันแน่ที่ลืมสิ่งที่เคยหาเสียง?
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ที่มีบางฝ่ายกล่าวว่าเป็นนโยบายเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน โดยยืนยันว่านโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้ใช้แรงงานในเมือง และถือเป็นการคืนรอยยิ้มให้กับคนหาเช้ากินค่ำ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของนายทุนตามที่มีการวิจารณ์
เธอระบุว่า รัฐบาลได้ออกแบบมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งด้านกลไกงบประมาณและระบบลงทะเบียนเพื่อจำกัดสิทธิ์เฉพาะผู้ใช้บริการที่เป็นคนไทย โดยนโยบายนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าทั้งหมด 13 สาย รวมระยะทางเกือบ 280 กิโลเมตร เชื่อมต่อทั้งรถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน และแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
เธอยังได้วิจารณ์การกล่าวหานโยบายนี้ว่าเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนว่าเป็นการมองข้ามประโยชน์ของประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้หยุดพูดว่าชาวกรุงเทพฯ เป็นภาระของประเทศ เพราะแท้จริงแล้ว คนกรุงเทพฯ คือกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของชาติ นอกจากนี้ เธอยังตั้งคำถามต่อกลุ่มการเมืองที่ออกมาต่อต้านว่า ต้องการตัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการใช้บริการหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าการใช้งบอุดหนุนปีละ 10,000 ล้านบาทไม่ใช่การสูญเสีย แต่คือการลงทุนเพื่อลดค่าครองชีพ และเพิ่มโอกาสเข้าถึงโอกาสในชีวิตให้กับประชาชน
ในขณะเดียวกัน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X เพื่อตอบโต้การโจมตีจาก ส.ส. พรรคประชาชนที่วิจารณ์นโยบายนี้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนเช่นเดียวกัน โดยชี้ให้เห็นว่าพรรคประชาชนเองก็เคยหาเสียงด้วยนโยบายที่สนับสนุนการอุดหนุนค่ารถไฟฟ้า แต่กลับออกมาต่อต้านเมื่อนโยบายเดียวกันกำลังจะถูกนำไปปฏิบัติจริงโดยรัฐบาลเพื่อไทย
เขาเน้นว่านโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายด้าน เช่น การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดฝุ่น PM2.5 การกระจายตัวของเมือง และเพิ่มเงินเหลือในกระเป๋าประชาชนเพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิต
นายชนินทร์ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันของฝ่ายค้านที่กล่าวหาว่าการอุดหนุนเป็นการเอื้อทุน ทั้งที่ในอดีตพรรคก้าวไกลเองก็เคยเสนอแนวทางที่คล้ายกัน โดยเสนอให้ใช้งบประมาณ 7,000 ล้านบาทในการอุดหนุนค่ารถไฟฟ้า เพื่อลดค่าโดยสารเหลือ 8-45 บาทต่อเที่ยว ดังนั้น การวิจารณ์ว่าการอุดหนุนคือการเอื้อทุน จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงของกลไกทางนโยบายที่มีอยู่แล้วในระบบการบริหารราชการแผ่นดิน
เขายังทิ้งท้ายด้วยคำถามไปยังฝ่ายค้านว่า หากพรรคประชาชนได้บริหารประเทศ จะมีวิธีลดค่าโดยสารโดยไม่ใช้งบอุดหนุนอย่างไร หรือจะยกเลิกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทันทีหรือไม่
ในประเด็นเดียวกัน นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X แสดงความไม่เข้าใจต่อท่าทีของพรรคประชาชนที่ออกมาตั้งคำถามและโจมตีนโยบายนี้ ทั้งที่พรรคตนเองก็เคยเสนอแนวคิดลักษณะเดียวกันในช่วงการหาเสียง
เธอกล่าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยเดินหน้านโยบายนี้เพื่อลดค่าครองชีพและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน โดยตั้งคำถามว่าฝ่ายค้านออกมาต่อต้านเพราะความจำสั้น หรือเพียงเพราะต้องการเล่นการเมืองโดยไม่สนใจว่าประชาชนจะเสียประโยชน์เพียงใดหากนโยบายนี้ถูกขัดขวาง พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลเพื่อไทยทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่พรรคประชาชนดูเหมือนจะพยายามขัดขวางผลงานของรัฐบาลโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน