
สั่งด่วน!! อพยพคนในรัศมี 300 เมตร ตรวจพบมลพิษอากาศ-สารเคมีโรงงานไฟไหม้
วันที่ 12 พ.ค.68 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุบริเวณโรงเรียนลำพะอง พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงาน ย่านซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าของโรงงานเดินทางมาให้ข้อมูลบางส่วนกับเจ้าหน้าที่แล้ว โดยพบว่าภายในโกดังของโรงงานมีเม็ดพลาสติกมากถึง 300 ตัน หรือราว 300,000 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เผาไหม้จนเกือบหมดแล้ว และจากการตรวจสอบจุดความร้อนด้านใต้โรงงาน พบว่ายังคงมีเปลวเพลิงเป็นกลุ่มเล็กๆ กระจายอยู่บริเวณอาคารหลังที่ 3 อีกประมาณ 20 %
จึงให้เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮและเครื่องจักรหนักไปทุบเจาะกำแพงโรงงานทางด้านซ้าย เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถนำสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิงได้ โดยคาดว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดเร็วๆ นี้ ก่อนจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ เพราะหากมีฝนตกจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่า เนื่องจากสารพิษจะกระจายออกด้านข้างโรงงานได้
ส่วนโรงงานมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเจ้าของมีชื่อเป็นคนไทย และบุคคลที่มาแสดงตัวก็เป็นคนไทยด้วยเช่นกัน
จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ พบว่า มีปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน อีกทั้งกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ยังเต็มไปด้วยสารพิษ ทั้งคาร์บอนมอนนอกไซด์ เจอรีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และอื่นๆ ซึ่งคาดว่าแพร่กระจายอยู่ในระยะรัศมี 300 เมตร และจะอยู่ในอากาศนาน 3-7 วัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน จึงจำเป็นต้องอพยพชาวบ้าน และปิดศูนย์พักพิงทั้ง 4 แห่ง แล้วย้ายไปที่วัดสุทธาโภชน์ และที่โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา ซึ่งอยู่ห่างจากจึดเกิดเหตุออกไปประมาณ 7 กิโลเมตรแทน
พร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวให้กับชาวบ้าน ห้ามเปิดแอร์ แต่ให้เปิดพัดลมละบายอากาศ และอย่าออกนอกบ้าน แต่หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งต้องเป็นหน้ากาก N95 จึงจะสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับสารพิษทางอากาศ อาจมีอาการวิงเวียนศรีษะ แสบเยื่อบุตา หรือระคายเคืองผิว ซึ่งสามารถแก้อาการได้ด้วยสบู่และน้ำสะอาด