อดีตภรรยาเผย จั๊กกะบุ๋ม ติดหนี้เป็นล้านต้องใช้แทน พร้อมบอกสาเหตุการหย่า รู้แล้วช็อก

อดีตภรรยาเผย จั๊กกะบุ๋ม ติดหนี้เป็นล้านต้องใช้แทน พร้อมบอกสาเหตุการหย่า รู้แล้วช็อก

เรียกได้ว่า ยังคงเป็นประเด็นร้อนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ทีมีประเด็นติดเงินแม่ปูนา ค่าปูนาดอง เกือบ 3 แสนบาท จนขึ้นป้ายขอความเมตตา ทำเอาจนต้องมาออกรายการโหนกระแสกัน

ล่าสุด ทางสำนักข่าวดัง ได้ไปสัมภาษณ์ นางลดา เมลีส อดีตภรรยา จ้๊กกะบุ๋ม โดยได้เล่าว่า ตนนั้นได้เดินทางพาลูกไปเรียนที่ประเทศเยอรมันแล้วไปได้ประมาณ 3 เดือน และเขาก็นอกใจไปมีภรรยาคนปัจจุบัน พอจับได้ก็เลิกรากันเลย

หลังกลับมาจากเยอรมันก็รู้ว่าก็ได้มีการพูดคุยกันเรื่องจะจ่ายหนี้สินยังไงจะช่วยเหลือกันคนละครึ่งไหมเขาก็บอกว่าให้ไปคุยกับทนายของเขา เราก็อ้าวทำไมจะต้องคุยกับทนาย ก็เลยตกลงกันแบ่งรถไปคนละคันแล้วตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีการพูดคุย ส่วนสาเหตุที่มาบอกเลิกกัน เขาว่าไม่ได้รักแล้ว เราก็คิดว่า ถ้าไม่รักก็ควรบอกเลิกกันก่อน เพราะเราเยอรมัน ก็ไปทำมาหากิน เรายังส่งเงินมาให้ใช้ตลอด แล้วคุณมาทำอย่างนี้ก็เสียใจ

ซึ่งก่อนที่มาอยู่ด้วยกันน่ะเขาก็มาจากศูนย์เลย ทุกอย่างที่ลงทุนเป็นเงินของลดาทั้งหมดแล้ว ก็ตอนที่มาเจอเรา เขาก็มีหนี้มาอยู่แล้ว เป็นหนี้ของหมูเส้น สินค้าที่เขาที่เอาขาย ซึ่งเราก็ใช้หนี้ไปแล้วประมาณ 3 แสนกว่าๆ แต่ก็ยังมีหนี้สินเหลืออีกแต่ว่าเราไม่รับใช้หนี้แล้ว เพราะว่ามันไม่ใช่เป็นหนี้ส่วนของเราที่เราอยู่ด้วยกัน มันเป็นหนี้ที่ติดมากับเขา ถามว่า เขาบอกไหมว่า เป็นหนี้สินจากอะไร? คุณรดา กล่าวว่า เขาบอกว่าเป็นค่าหมูเส้น และค่าแชร์ เขากู้เงินจำนวนนี้มาเอาไปจ่ายค่าเทอมลูก ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่

นิสัยของจั๊กกะบุ๋ม ตอนที่อยู่กับเรา อารมณ์ร้าย เขาเป็นคนขี้โมโห ชอบทะเลาะตบตี ส่วนเรื่องการพนันหรือยาเสพติดนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นอย่างไร เพราะว่าส่วนมากโทรศัพท์เขา เขาก็ไม่ค่อยให้ดู แล้วเราก็ไม่ได้ก้าวก่าย จากข่าวที่เกิดขึ้นไปโกงค่าสินค้าแม่ปูนา ก็รู้สึกคิดถึงตัวเองเลย ซึ่งที่ผ่านมาตนต้องจะใช้หนี้แทนเขา ครั้งนึงเขาบอกว่าช่วยชีวิตกูไม่ได้เหรอ บ้านหลังที่ทำร้านอาหารด้วยต้องจำนองก็ได้มาล้านหนึ่งก็ใช้หนี้จนหมด 8.5 แสนบาท

ส่วนที่จะฝากอะไรไปทางจั๊กกะบุ๋มนั้น คงไม่ฝากอะไรเพราะเขาจะเอาตัวรอดได้ทุกครั้งอยู่แล้ว สามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

ขอบคุณบทสัมภาษณ์ อมรินทร์ทีวี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ