ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่สูญเสียไป ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพเป็นตุ่มน้ำพอง เข้ารับการรักษาอาการตุ่มน้ำพอง ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อช่วงปี 2562 จนถึงปัจจุบันและถึงแก่กรรมไป เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง

และถ้าหากจะย้อนไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว หมอปลายพรายกระซิบ เคยเตือน เมฆ วินัย เอาไว้ว่าปี67 นี้จะมีผู้ชายผิดเข้มที่เป็นนักแสดงจากไปตามอายุขัย มีเหตุอันเป็น เจ้ากรรมนายเวรมา ไม่ใช่เรื่องทำร้ายตัวเอง เพราะตอนนี้เค้ากำลังป่วยและอยากให้ไปขอขมาแม่นาก

หมอปลายเคยเจอนักแสดงคนนี้ตอนเด็กๆ เคยบอกไปแล้ว แต่เราก็แค่เด็กแล้วมันก็เกิดเหตุนี้จริงๆ เพราะท่านตามอยู่พักหนึ่ง เพราะน่าจะมาจากเล่นหนัง พอเราไปแสดงว่าเป็นคนรักของเค้า แล้วเค้าอิน เพราะเค้ามาเข้าร่างของผู้หญิงที่เป็นนางเอกมันก็เลยกลายเป็นผูกอยากเอาไป แต่มันด้วยเพราะศาสนาที่ช่วยยื้อให้พี่เค้าอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งจริงๆแล้วการทำบุญการให้ไปขอโทษขอขมากันถือเป็นสิ่งดีนะ ทุกศาสนาก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกัน แค่คำๆเดียว

โดยล่าสุด ทราย เจริญปุระ ได้พูดถึงประเด็นที่ว่า หมอปลาย พรายกระซิบ เมื่อ 2 เดือนก่อนจะสูญเสีย เรื่องผู้ชายผิวสีเข้มจะหมดอายุขัย พร้อมแนะนำให้เขาไปขอขมาย่านาก ทรายได้เผยว่า ย้อนไปตอนที่ถ่ายทำก็ไหว้กันเยอะ ถ้าเอาตามตำนานในเรื่องที่ทำทรายจะต้องไปก่อน ถ้าเอาตามเรื่องคนที่ต้องลา คนที่เรียกว่าหมดบุญกันไปในเรื่องก็คือตัวของแม่นาก ทรายว่ามันเป็นจังหวะชีวิตแหละ ความที่ทั้งทรายและพี่เมฆเล่นบทพีเรียด เล่นเป็นคนโบราณเยอะ ชาวบ้านบางระจันก็เล่น เราคิดว่าเราให้ความนับถือ ก่อนจะทำงานเราก็ไหว้ ระลึกถึง แต่ก็ไม่ขนาดที่ว่าเราจะไม่กล้าทำงาน จนไม่สามารถทำงานได้

ตอนนี้ทรายว่ามองให้สบายใจดีกว่า ยังไงเจ้าตัวก็ไม่อยู่แล้ว พี่เอ๋ หลาน ๆ คุณแม่ยังอยู่ ทรายว่าถ้าอันนี้มันทำให้คนอยู่ไม่สบายใจ เหมือนเราไปพลาดอะไร พลาดตรงไหน ทรายไม่อยากให้ไปมองมุมนั้น เพราะคนที่ยังอยู่จะคิด แล้วซึ่งมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว อีกส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ มันเป็นโรคหายากก็ตาม มันมีโอกาสเกิดขึ้น โชคร้ายที่มันเป็นพี่เราเท่านั้น เอาเป็นเรื่อง ๆ ไปตรงนี้ดีกว่า