เรียกได้ว่าทำแฟนๆเศร้าและตกใจไม่น้อยหลัง สื่อต่างประเทศ ได้เผยแพร่เรื่องราวของ อดีตผู้ประกาศข่าวสาว อียุนจิน (ภรรยา) ของนักแสดง อีบอมซู ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรก หลังมีประเด็นข่าวออกมาว่าเธอและสามีได้แยกกันอยู่มาสักพักแล้ว และกำลังยื่นขอยุติบทบาทการเป็นคู่แต่งงานกัน โดยเธออยู่กับลูกสาวที่กำลังศึกษาอยู่ที่อินโดนีเซีย และลูกชายอยู่กับพ่อที่โซล

ล่าสุด อียุนจิน ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสามี พร้อมขอร้องให้อีบอมซูให้ความร่วมมือกับการหย่าร้าง โดยระบุว่า

การหลีกเลี่ยงการแยกทางกันตามข้อตกลง ไม่สนใจคำร้องขอหย่าโดยยินยอม การไม่สามารถตกลงกันได้ในระหว่างการไกล่เกลี่ยการหย่าร้าง เป็นเวลา 10 เดือนแล้ว เลือดของฉันเริ่มแห้งและร่างกายของฉันกำลังเหี่ยวเฉา แต่ถ้าการหย่าร้างเข้าสู่การพิจารณาคดี พวกเขากล่าวว่า อาจใช้เวลาถึง 2 ปี "

ดังนั้น (ลูกสาว) จึงถูกห้ามไม่ให้เข้าบ้านของครอบครัวในกรุงโซล เพียงเพราะเธอเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศ ส่วนฉันที่กล้าขอหย่ากับหัวหน้าครอบครัวฉันไม่สามารถเข้าไปได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของ (อีบอมซู) ได้โปรดนำแว่นตาและหนังสือของโซอึลมาให้ฉันด้วย ฉันสายตาเอียง"

ฉันไม่มีใครต้องตำหนิ ฉันผ่านการแต่งงานครั้งนี้เมื่อทุกคนพยายามหยุดฉัน ดังนั้นฉันจึงอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าฉันใช้ชีวิตได้ดี ช่วง 14 ปีหลังแต่งงานของฉันแตกต่างกันมาก จากภาพอันประณีตที่ฉันได้แสดงไว้ในโฆษณาแต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีช่วงเวลาอันมีความหมาย เมื่อชายที่ฉันสัญญาว่าจะใช้เวลาชั่วนิรันดร์ต้องเผชิญกับการต่อสู้ทางกฎหมายด้วยเหตุผลด้านภาษีและคดีแพ่งและอาญาอื่น ๆ ฉันก็ใช้เวลา นอนอยู่นับไม่ถ้วนศึกษากฎหมายเพื่อปกป้องเขาในฐานะตัวแทน ในขณะที่ถูกโยนทิ้งไปฉันก็ได้เรียนรู้มากมาย และขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น ฉันแข็งแกร่งขึ้นในฐานะคน การดับไฟและกำจัดขยะนั้น คืองานที่ฉันต้องทำให้สำเร็จในความสัมพันธ์นี้ ฉันมั่นใจว่าฉันได้ทำงานส่วนนี้พอสมควร พอที่จะจ่ายค่าเช่าและอาหารให้หัวหน้าครัวเรือน"

เมื่อคู่รักต้องดิ้นรน คุณช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อถึงเวลาที่ยากลำบาก ฉันไม่ลังเลเลยที่จะขายแหวนแต่งงานและของขวัญของเรา เมื่อเขาดูเหมือนเขากำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เขาไม่สามารถเปิดใจกับฉันได้ ฉันทำงานหนักขึ้น พูดตามตรง เราเอาชนะปัญหาทางการเงินด้วยการนำเงินจากบัญชีธนาคารของพ่อแม่ของฉันในวัยใกล้อายุ 70 ปีออกมาหมดเลี้ยง แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่ของฉันต้องได้ยินแม่ของสามีดูถูกฉันต่อหน้าพวกเขาและพูดว่า 'ให้แน่ใจว่าลูกสาวของคุณอยู่ในแถว' ฉันอยากจะเก็บคำดูถูกเหล่านั้น 'ไอ้เลวนั่น' ไว้กับตัวเอง แต่สุดท้ายฉันก็ปล่อยให้พ่อแม่ได้ยินเหมือนกัน ฉันทำร้ายพ่อแม่ของตัวเอง ฉันหมดสิทธิ์ที่จะเผชิญหน้าพวกเขา"

เกี่ยวกับสามีอีบอมซู เธอยังเขียนอีกว่า "ชีวิตคู่ที่แปลกประหลาด และความแปลกประหลาดของเขา ของมีค่าทั้งหมดที่เขาซ่อนไว้ด้วยกุญแจ โทรศัพท์หลายเครื่องที่เขาซ่อนไว้ในถุงเท้า เขาหลอกลวงและทรยศต่อครอบครัวเขามาก

ฉันไม่สนหรอก เขาได้ถ่วงเวลามาหลายปีแล้ว หลีกหนีการเผชิญหน้า ไม่มีใครชอบการหย่าร้าง และมั่นใจว่าคงไม่มีใครอยากอายุครบ 15 ปี การแต่งงานเป็นเพียงเรื่องซุบซิบที่ปลิวไปตามสายลม ในฐานะภรรยาของบุคคลสำคัญและเป็นแม่ของลูกๆ ที่รัก ฉันใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง"

ในที่สุด Lee Yun Jin กล่าวว่า "ฉันกำลังเขียนสิ่งนี้ด้วยความหวังว่าในที่สุดเสียงตะโกนของฉันก็จะไปถึงบุคคลนั้นที่ไม่ยอมขยับเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนติดอยู่ในก้อนหินไม่โผล่หัวออกมา ฉันรู้สึกเขินอาย แต่ที่รู้ว่าเรา เส้นทางสามารถข้ามไปได้ตลอดชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ฉันขอร้องให้คุณออกมาเผชิญหน้า นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ง่ายๆ โดยการใช้เงินสนับสนุน และล็อคประตูหากมี ใครก็ตามที่สามารถติดต่อเขา ได้โปรดนำข้อความนี้ไปบอกด้วย และหวังว่าเสียงตะโกนของฉันจะได้ยินในที่สุด