ขึ้นไม่หยุดคาด 3 เดือน ทองคำไทยทะลุบาทละ 4 หมื่น

ขึ้นไม่หยุดคาด 3 เดือน ทองคำไทยทะลุบาทละ 4 หมื่น

เรียกได้ว่าขึ้นต่อเนื่องกันเลยทีเดียว สำหรับราคาทองคำล่าสุด ขึ้นไปทดสอบ 36,600 บาทต่อบาททองคำ ทั้งนี้แม้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปสูง แต่ในมุมของผู้ค้าทองคำมองว่า ราคายังพุ่งไปได้ต่อ โดยให้เป้าหมายที่ 4 หมื่นบาท และคาดว่าน่าจะได้เห็นภายในครึ่งปีแรก

โดย วายแอลจี คงเป้าหมายราคาทองคำปี 2567 ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่มองจะถึงเป้าหมายเร็วขึ้น หลังล่าสุดทำราคา All Time High ที่ 2,195 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เชื่อครึ่งปีแรกมีโอกาสเห็น ส่วนทองคำในประเทศให้เป้าหมายที่ 40,000 บาทต่อบาททองคำ มองเทรนด์ยังเป็นขาขึ้นไปอีก 2-3 ปี ระยะสั้นแม้ทองคำพุ่งไม่แผ่วแต่ยังมีแนวโน้มไปได้ต่อ ชี้ปัจจัยหนุนมาจากตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด

และปัจจัยพื้นฐานที่สัญญาณดอกเบี้ยเป็นขาลง ขณะที่แรงซื้อออนไลน์เติบโตอย่างมีนัยสำคัญคิดเป็น 65% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมด ล่าสุดเพิ่มช่องทางซื้อขายทองคำตลาดฟิวเจอร์สในตลาด CME Group ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกทั้งที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ส่งผลให้นับจากต้นปีราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 7.3%

ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมาครั้งนี้นอกจากจะมีปัจจัยพื้นฐานด้านนโยบายดอกเบี้ยที่เป็นที่แน่ชัดว่าปีนี้ต้องปรับลงแล้ว ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดที่มีอัตราการว่างงานที่ 3.9% สูงกว่ารอบก่อนและสูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.7% จากความกังวลเรื่องอัตราการว่างงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องราคายกระดับต่ำสุดและระดับสูงสุดแบบรายวัน บ่งชี้ว่ายังมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นในระยะสั้น

ขณะที่ภาพรวมระยะกลางสัญญาณยังเป็นบวก โดยในปีนี้แม้ราคาจะปรับขึ้นมามากแล้ว แต่ YLG ยังคงให้เป้าหมายไว้ที่เดิมที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ได้ปรับมุมมองว่าราคาทองคำอาจไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยอาจจะได้เห็นภายในครึ่งปีแรก ส่วนระยะยาว 2-3 ปี ทิศทางทองคำยังคงเป็นบวกต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเป็นทิศทางขาลงไปอีก 2-3 ปี ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้นมองว่ามีโอกาสถึง 40,000 บาทต่อบาททองคำภายในครึ่งปีแรกเช่นกัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ