กรมสมเด็จพระเทพ เสด็จฯ ร้อยเอ็ด ทรงพระราชกรณียกิจ

กรมสมเด็จพระเทพ เสด็จฯ ร้อยเอ็ด ทรงพระราชกรณียกิจ

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อทรงเปิดโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อและมรดกพ่อ จัดขึ้นโดยสหกรณ์การเกษตร เกษตรวิสัย จำกัด อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด

เป้าหมายของโครงการนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเผยแพร่องค์ความรู้เรื่อง “ศาสตร์พระราชา” ที่ได้น้อมนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจช่วยเหลือสมาชิก

ในการนี้กรมสมเด็จพระเทพ พระราชทานรางวัลแก่สมาชิกสหกรณ์ดีเด่น และผู้ชนะการประกวดค้นหาสุดยอดความหอมข้าวหอมมะลิของจังหวัดร้อยเอ็ด ปีการผลิต 2566/2567 โดยประเภทสหกรณ์ ได้แก่ สมาชิกสหกรณ์การเกษตร เกษตรวิสัย จำกัด และประเภทกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ และศูนย์ข้าวชุมชน ได้แก่ เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรทำสวนเมืองทอง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

ในการนี้ ทรงเยี่ยมสมาชิกสหกรณ์การเกษตร เกษตรวิสัย จำกัด ปัจจุบัน มีสมาชิก 8,910 ครอบครัว 156 กลุ่ม ทั้งหมดประกอบอาชีพทำนาในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ โดยปลูกข้าวหอมมะลิ 158,490 ไร่ ในฤดูกาลผลิตข้าวปี 2566/2567 ได้ผลผลิต 86,518 ตัน สมาชิกได้รับเงินปันผลเฉลี่ยคืนตามส่วนธุรกิจอย่างเป็นธรรม มีการจัดตั้งเงินทุนสาธารณประโยชน์ช่วยเหลือสังคม เป็นมรดกที่พร้อมส่งต่อให้กับสมาชิกรุ่นต่อไป

จากนั้น เวลา 13.11 น. สมเด็จพระเทพ เสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงติดตามการดำเนินงานของกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านโพนฮาด อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน ตามพระราชดำริฯ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตของตนและครอบครัวในยุคโลกาภิวัตน์ได้เป็นอย่างดี และมีความปกติสุข น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต สามารถพึ่งพาตนเอง มีอาชีพ มีรายได้ สามารถปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้น มีกำลังส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลาน ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืน

จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดตั้งกลุ่มส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน 5 กลุ่ม มีสมาชิกรวม 285 คน แบ่งเป็น 5 ระยะ ตั้งแต่ปี 2556-2560 ได้แก่ บ้านปอภาร ตำบลปอภาร อำเภอเมือง มีสมาชิก 73 คน, บ้านโพนฮาด ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย มีสมาชิก 88 คน, บ้านผือฮี ตำบลดงแดง อำเภอจตุรพักตรพิมาน มีสมาชิก 33 คน, บ้านนานวล ตำบลนานวล อำเภอพนมไพร มีสมาชิก 31 คน และบ้านมะหรี่ ตำบลภูเงิน อำเภอเสลภูมิ มีสมาชิก 60 คน

โอกาสนี้ ทอดพระเนตร “ฐานเรียนรู้การผลิตน้ำหมักชีวภาพ” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และน้ำหมักชีวภาพสำหรับใช้ในครัวเรือน ผลิตจากเศษพืชผัก และเศษอาหารจากชุมชน เพื่อลดต้นทุน รวมทั้งเป็นจุดถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรที่มาอบรม และศึกษาดูงาน โดยให้บริการน้ำหมักชีวภาพแก่สมาชิกที่ปลูกผักโดยรอบโครงการฯ

จากนั้น ทอดพระเนตร “ฐานเรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ” ส่วนใหญ่เป็นผักสวนครัว อาทิ คะน้า, พริก, ต้นหอม ที่ใช้กระบวนการดูแล และบำรุงรักษาแบบเกษตรอินทรีย์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ทั้ง Organic Thailand และ GAP ที่เป็นที่ต้องการของตลาด และมีแหล่งรองรับในการจัดจำหน่าย ทุกกิจกรรมที่ได้ดำเนินการ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ในการนี้ ระหว่างทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดร้อยเอ็ด กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนั่งรถยนต์พระที่นั่ง หมายเลขทะเบียน 1ค-3905 กรุงเทพมหานคร และเลขหางเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ 3102

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ