ละครเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว! วินัย ไกรบุตร เลือดออกเต็ม ทุรนทุรายไปหา อ.ไพศาล ถึงบ้าน หวังแก้กรรมสุดท้าย

ละครเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว! วินัย ไกรบุตร เลือดออกเต็ม ทุรนทุรายไปหา อ.ไพศาล ถึงบ้าน หวังแก้กรรมสุดท้าย

จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น เมฆ วินัย ไกรบุตร ได้แก้กรรมไปแล้ว แต่ติดคนที่สุดท้าย เมื่อทางช่อง หนุ่ม คงกระพัน ได้เชิญ ดร.อิมรอน มะลูลีม ศาสนาจารย์ด้านอิสลาม มาเปิดใจถึงเรื่องราวที่จะขอขมาเจ้ากรรมคนที่7ได้ไหม โดยได้เผยว่า เวลาขอโทษกับพระเจ้า ทำได้โดยตรงคือไปที่มัสยิด ทางอิสลามเราไม่มีสื่อกลาง เราขอพระเจ้าโดยตรง สิ่งที่เราทำผิด เราก็ขอกับพระเจ้าโดยตรงแล้วก็อย่าไปทำอีก ขออภัยจากสิ่งที่เคยทำ หลักศาสนาเป็นแบบนั้น มีคำกล่าวมีหลักการที่เขาสอน ในอิสลามมีคำว่า มาอัพ คือการให้อภัย เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ซึ่งคุณวินัย มีเจ้ากรรมนายเวรอีกสองคนที่เป็นมุสลิม ท่านหนึ่งเสียไปแล้วอีกท่านหนึ่งก็มีชีวิตแต่ท่านบอกว่าไม่มีเรื่องชาติที่แล้ว ไม่อนุญาตให้ทำ ถ้าคุณวินัย จะมาขอทำแก้กรรม กับอาจารย์ อาจารย์จะตอบว่า ไม่มีเรื่องชาติก่อน เราไม่เชื่อเรื่องอดีตชาติ แต่อาจารย์จะขอพรให้หายจากโรคร้ายที่เขาเป็นอยู่ ผมจะลูบหัวเขา ไม่ต้องอโหสิกรรมหรอก อาจจะเป็นกำลังใจให้เขาก็ได้ คือทางศาสนาอิสลามเราเชื่อแบบนี้

ล่าสุด หนุ่ม คงกระพัน เผยคลิป คุยคุ้ยคน ฝ่าทางตันแก้กรรมครั้งสุดท้าย ของ เมฆ วินัย หลัง เอ๋ ภรรยา พา เมฆ วินัย ไปหา อ.ไพศาล แสนไชย ถึง จ.ลำพูน เป็นครั้งแรกที่ เมฆ เดินทางไกลและไปหา อ.ไพศาล ด้วยตัวเอง หลังเดินทางกลับมา หนุ่ม คงกระพัน รีบไปหาที่บ้านเปิดใจ เมฆ วินัย เจ้าตัว บอกว่า กลับมาถึงบ้านทุ่มกว่า น็อกเลย

เอ๋ : ทางสามีขอคุยแทนภรรยาเขาทั้งหมด โดยบอกว่า เจ้ากรรมคนที่7ที่เขาไม่อนุญาตให้ขอขมาเพราะความชื่อเรื่องศาสนาที่แตกต่างกัน ก็เข้าใจไม่เป็นไรได้คุยกับเขาไหม เมฆ กล่าวว่า ได้คุยกับสามีเขา แต่อยากคุยกับภรรยาเขา ตัวเขา เสียใจที่ไม่ได้คุยกับภรรยาเขาโดยตรง ถ้าผู้หญิงบอกว่า ได้ค่ะพี่เราไม่ติดค้างกัน จบเลย

เล่าให้เขาฟังทั้งหมด เอ๋ เผยเขาบอกไม่เชื่อ อิสลามไม่มีเรื่องอดีตชาติ เราไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักกัน ด้าน เมฆ เผยก็ไม่ติดใจ เขาบอกไม่ติดใจ ก็จบ

เมฆ บอกด้วยว่า คนที่ดูผมอยากให้ดูในมุมของคนที่เจ็บป่วย ไม่ใช่อิสลาม พุทธ คริสต์ ฮินดู ผมเป็นคนป่วยคนหนึ่งที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด เพื่อจะให้หายกลับมาเหมือนเดิม เดินทางไปกับครอบครัว อย่าเอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวพัน

สิ่งที่ผมทำวันนี้กับครอบครัว เป็นส่วนตัว เป็นความอยู่รอด พยายามจะกลับมาหายไวๆ หลุดพ้นจากความทรมาน สิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่โทษใคร ทุกอย่างเกิดจากตัวผมเอง ปรึกษา อ.ไพศาล ได้คำตอบว่าต้องเดินทางไป ลำพูน ถ้ามาไหว เมฆ ยอมรับคืนก่อนที่จะไป วันที่ผ่านมาไม่คิดว่าผมจะไหว ตื่นขึ้นมาเลือดเต็มตัวเลย เต็มหลัง เลือดเต็มเท้า ผมวัดดวงเลย เช็ดเสร็จก็ขึ้นรถ นอนบนรถ ยาวไปถึงลำพูน

เอ๋ เล่าว่า วันนั้นเปลี่ยนผ้ารองเฉพาะซับเลือดวันที่พี่เมฆเดินทางไป ใช้ไป 20 ชิ้น เมฆ เล่าความทรมานว่า ถึงแถวอ่างทองเกือบตาย คิดว่าไม่รอดด้วยซ้ำ เอ๋ บอกด้วยว่า นั่งรถออกจากกรุงเทพฯ ตีห้า ถึงลำพูน 4 โมงเย็น ค่อยๆไป เอ๋แวะไหว้พระตลอดทาง กรวดน้ำ เมฆ เผยเรื่องงง ว่า ไปถึงบ่ายสองร่างกายนิ่งไม่เป็นอะไรเลย ไม่เมื่อย ไปถึงได้ยังไง งง

ก่อนจะไปนอนพักโฮมสเตย์ใกล้บ้าน อ.ไพศาล กลางคืนเจอเรื่องลึกลับอีก ก่อนพบ อ.ไพศาล เอ๋ เล่าว่า คืนที่ไปถึงคืนแรก ตีหนึ่ง พี่เมฆ ก็ตะโกนเรียกเอ๋เปิดไฟ ก็ตกใจเป็นอะไร

เมฆ เผย นอนซ้ายก็ไม่ได้ นอนขวาก็ไม่ได้ นอนตรงก็ไม่ได้ เจ็บไปหมด หลับก็ไม่ได้ ตีหนึ่ง คัน เหมือนผีสิง ลุกขึ้นมาตีหน้าอกตู้มๆๆ ตะโกนเรียก เอ๋ โดนของหรือเปล่า อยู่ดีๆ คันที่หน้าอก

เอ๋ บอกเช่นกันว่า เขาพูดว่า เขาเหมือนโดนของ ตกใจ เขาให้เปิด บทสวด อิติปิโส ฟัง ครั้งแรกที่เปิดจนดับ ซึ่งไม่ได้เป็นมานานแล้ว มาเป็นตอนที่เราตั้งใจมาทำบุพกรรมของคนที่7 ให้เสร็จสิ้น

เมฆ เผยเสียงแผ่ว ละครเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว เป็นละครที่วินัย ไกรบุตร และครอบครัว สร้างมา 5 ปีเต็ม ขอให้มันจบ ปิดกล้อง ไม่มีการเทคแล้ว หมดงบการถ่ายทำ

ขณะไปถึงบ้าน อ.ไพศาล เอ๋ เล่าว่า คนเต็ม คนที่ไม่ได้นัดก็มา เขาทุกข์กัน ท่านก็เมตตา พี่เมฆ นัดไว้ก็ไปนั่งรอในรถ อยู่ที่บ้าน อ.ไพศาล พี่เมฆเปลี่ยนแผ่นรองเลือด 4 แผ่นที่ก้น เมฆ เล่าว่า วันนั้นผมแย่ ผมทุรนทุรายเลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ